*~*ประเพณีลอยกระทง(LOI KRATHONG)*~*
          เป็นประเพณีโบราณของไทย แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าทำกันมาตั้งแต่เมื่อไร เท่าที่ปรากฏ กล่าวได้ว่ามีมาตั้งแต่สุโขทัยเป็นราชธานี 
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสันนิษฐาน ว่า เดิมทีเดียวเห็นจะเป็นพิธีของพราหมณ์ กระทำเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าทั้งสาม คือ 
พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้ถือตามแนวทางพระพุทธศาสนา มีการชักโคมเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระจุฬามณีในชั้นดาวดึงส์ 
และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐาน ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทา ในสมัยสุโขทัย นางนพมาศพระสนมของพระร่วงได้คิดทำกระทงถวาย 
เป็นรูปดอกบัวและรูปต่างๆให้ทรงลอยตามสายน้ำไหล          
         พระร่วงเจ้าทรงพอพระราชหฤทัยกระทงดอกบัวของนางนพมาศมาก จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และปฏิบัติสืบต่อกันมา 
จนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาและสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยเหตุนี้ กระทงรูปดอกบัวจึงปรากฏมาจนทุกวันนี้ แต่เปลี่ยนชื่อเรียกว่า "ลอยกระทงประทีป" 
ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงตัดพิธีต่าง ๆ ที่เห็นว่าสิ้นเปลืองออก ต่อมาในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีนี้อีก 
        ปัจจุบันนี้ การลอยพระประทีปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำเป็นการส่วนพระองค์ตามพระราชอัธยาศัย 
แต่พิธีของชาวบ้านยังทำกันอยู่เป็นประจำตลอดมา          
        การลอยกระทงนั้น จะมีการจุดธูป จุดเทียน ปักบนสิ่งที่ไม่จมน้ำ และจะประดิษฐ์ เป็นรูปต่างๆ เช่น กระทงเรือ แพ ดอกบัว 
แล้วนำไปปล่อยให้ลอย ไปตามน้ำ สมัยก่อนกระทงทำด้วยใบตอง ใบพลับพลึง กาบมะพร้าว ปัจจุบันนิยมใช้โฟมและพลาสติก ซึ่งย่อยสลายยาก 
ทำให้เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม และยังทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน ทำให้น้ำท่วมขังและสิ่งที่ควบคู่ไปกับการลอยกระทง ก็คือ 
การจุดดอกไม้ไฟชนิดต่างๆ  ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน ซึ่งดูเหมือนจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะนอกจากเกิดเสียงรบกวนแล้ว 
ยังอาจเกิดอันตราย เมื่อระเบิดถูกร่างกายหรือเกิดเพลิงไหม้ได้ และยังเป็นการ สิ้นเปลืองเงิน โดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย 
ในการเล่นดอกไม้ไฟเราจึงควรระวัง อย่าให้ประเพณีที่มีแต่ความดีงามต้องกลายเป็นความน่ากลัวไป          
        การลอยกระทง เป็นประเพณีที่อยู่ควบคู่กับคนไทยมาช้านาน ตั้งแต่สมัยสุโขทัย เราในฐานะลูกหลานคนไทยจึงควร
ช่วยกันรักษาไว้อย่าให้ประเพณีนี้ ต้องเสื่อมและหมดคุณค่าลงเพราะเรา เพื่อทำให้ การลอยกระทง เป็นประเพณี 
ที่คงไว้ซึ่งความเป็นไทยและงดงามคงอยู่สืบไป นานเท่านาน..คติที่ถือกันมา เกี่ยวกับการลอยกระทง          
        คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทงถือว่ามีอยู่มากมายหลายตำนานแตกต่างกันไป มีดังนี้ค่ะ
1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา
1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา
          2.การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์           
          3.การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันที่เสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 
             เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา           
          4.การลอยกระทง เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทานที 
             เพื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรด ในนาคพิภพ           
          5.การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า           
          6.การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก           
          7.การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุดตเถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล 
                                                                                                        ( www.mthai.com )
LOI KRATHONG
         The feast "LOI KRATHONG"  is a religious event that happens every year on 
the full moon of the 12th lunar month (first full moon day of November). 
All Thai people buy or make a "KRATHONG". It is made of styrofoam 
( bad choise as it is not biodegradable) surrounded by banana leaves, with flowers 
and a candle at the middle. Then in the evening, Thai people go to places where 
there is a river, a pound to launch their "KRATHONG". 
In ancient times, this ceremony was to excuse one-self to the spirit of the river 
and to let float one's sins away. Little boys are allowed to take the coin when 
the candle of the krathong is lit off.
An old Thai proverb says that "When a boy and a girl are launching a KRATHONG
An old Thai proverb says that "When a boy and a girl are launching a KRATHONG
together they will be lovers this life or next life".
        According to an another Thai custom, people must keep their eyes on their 
"KRATHONG" until it drifted out of sight as there is a belief that the longer the candle is burning, the better the next year will be.
        On the night of "LOI KRATHONG", it is time to send a "KRATONG". People, who are not skilled enough to make it, can buy it in many small shops. Then they go to a river, a pound or even hotel swimming pools in Bangkok. Even in places where there is no river, Thai people make two small swimming pools linked with tubes in order that the krathong floats from one swimming pool to the other. Then Thai people lit the candle, insert a "one Baht coin", make a wish and let their krathong float.
        "LOI KRATHONG" happens everywhere in Thailand. In touristic places like Sukhotai, Ayuthaya the festival is highly famous. Often there is an election of miss "LOI KRATHONG". Women are dressed in Thai traditional clothes. For a more traditional festival closer to everyday Thai life, people prefer non touristic places.



1 Comments:
At 6:05 PM, $PiDerMaN---Sai said…
 $PiDerMaN---Sai said…
มิ้งงงงงงงงงงงงง
เขามาเม้นหั้ยแร้วนะ
แวะมาเม้นหั้ยเขาบ้างล่ะ
ปัยแระ
รู้มั้ยเขาไม่ปลื้มเรยนะ
.......จบ......
Post a Comment
<< Home